วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ความหมายของบล็อก

Blog คืออะไร
  Blog มาจากศัพท์คำว่า Weblog ความหมายว่า  บล็อก  (Blog)
   Blog ก็คือ การบันทึกบทความของตนเอง ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog จะครอบคลุม
ได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือ เป็นบทความเฉพาะด้านเช่น เรื่องการเมือง
  จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่งที่สามารถ
 สื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมายผ่านทาง
 ระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง
 สรุป Blog คือเว็บไซต์ที่มีรูปแบบ  เนื้อหาเหมือนบันทึกส่วนตัวออนไลน์ มีส่วนของการ comments และก็จะมี  link ไปยังเว็บอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
Blog มีส่วนประกอบที่สำคัญอะไรบ้าง
  1.ชื่อบล็อก (ฺBlog Title)
      ส่วนของ Blog Title นี้ก็จะเป็นชื่อของบล็อกนั้น ๆ
 2.วันที่และเวลา (Date & Time Stamp)  เป็นวันที่ และมีเวลากำกับอยู่ด้วย ตัววันที่และเวลานี้ จะเป็นตัวบอกว่า บทความในบล็อกนั้นเขียนขึ้นมาเมื่อไหร่
       ชื่อเรื่องของบทความที่เขียนในบล็อก
  4.ตัวเนื้อหาบทความ (Entry’s Main Body)      อาจเป็นตัวหนังสือ หรืออาจเป็นรูปภาพ วีดีโอ หรือ อนิเมชั่น  โดยส่วนประกอบ  เหล่านี้จะรวมเป็นเนื้อหาของบทความ
  5.คอมเม้นต์ (Comment tag)      เป็นลิงค์ที่ให้ผู้อ่านคลิกไปเพื่อกรอกคอมเม้นต์ให้กับบล็อกนั้น ๆหรืออ่านคอมเม้นต์ที่มีคนเขียนคอมเม้นต์เข้ามา
 6.ปฏิทิน (Calendar)    บล็อกบางแห่งอาจมีปฏิทินอยู่ด้วยโดยในปฏิทินนั้นสามารถคลิกตามวันที่เพื่ออ่านบทความของวันที่นั้น ๆ ได้สะดวกครับ
 7.บทความย้อนหลัง (Archives)     บทความเก่า หรือบทความย้อนหลังอาจมีการจัดเตรียมไว้โดยเจ้าของบล็อกโดยบล็อก แต่ละแห่งอาจจัดเรียงบทความย้อนหลังไม่เหมือนกันเช่นจัดเรียงรายเดือน รายสัปดาห์
 หรือจะ list บทความทั้งหมดออกมาเลยก็ได้
 วิธีสร้าง contentมัดใจผู้อ่านบล็อก
 1.เขียนบทความที่มีอายุการใช้งานนาน ๆ
    บทความบางเรื่องมีอายุการใช้งานสั้นมาก  เช่น บทความจำพวกข่าวต่างๆ  สำหรับการ
 เขียนบทความที่มีอายุการใช้งานได้นานๆ นั้น  ไม่ควรระบุระยะเวลาเพื่อจะทำให้บล็อกเกอร์
 คนอื่นพูดถึงบทความของคุณได้บ่อย ๆ
 2.เขียนบทความขึ้นเองอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
     บทความที่จะสร้างให้ blog ของคุณเป็นที่  กล่าวขวัญก็คือ บทความที่เขียนด้วยตัวคุณเอง
 และไม่ซ้ำกับใคร บทความแบบนี้เขียนไม่ยาก ลองนึกถึงการเขียนด้วยความคิดของคุณเองหรือ
 มุมมองของคุณเอง
 3.เขียนข่าวก่อนคนอื่น
    หากเราเป็นบล็อกที่รายงานข่าว ก็ลอง เขียนข่าวให้เร็วกว่าคนอื่น ถ้าเรารายงานข่าวได้เร็วกว่าคนอื่น นั่นจะทำให้ผู้อ่านคิดถึงเราเป็นคนแรก หากต้องการอ่านข่าว
 4.เจาะลึกเฉพาะทาง
       ข้อนี้จะเข้าข่ายเนื้อหาเจาะลึกตรงประเด็น หากคุณสนใจเรื่องเกมและบล็อกของคุณเขียน
  แต่เรื่องเกมแล้วล่ะก็ ลองเจาะมันให้ลึกเอาให้ละเอียดในเนื้อหาเฉพาะด้านของเกม  เช่น
  ข่าวเกม เฉลยเกม
 เขียน blog เกี่ยวกับเรื่องอะไรดี
 เมื่อคุณเริ่มมีความคิดที่จะเขียนบล็อก  แต่ยังไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องอะไรดีลองนึกถึง
 เรื่องราวใกล้ตัว ที่คุณชอบและคุณถนัดที่สุดอาจจะเป็นเรื่องที่คุณมีความรู้ลึกซึ้ง หรือที่คุณสนใจจะเรียนรู้มันนั่นจะเป็นหัวเรื่องให้คุณเขียนถึงได้เป็นอย่างดี เช่น หากคุณเลี้ยงสุนัขพันธุ์ชิสุอยู่  คุณอาจจะทำ blog เกี่ยวกับชิสุโดยเนื้อหาใน blog ของคุณอาจเขียนถึงวิธีการดูแลสุนัขชิสุ หรือพูดถึงข่าว
 สารวงการสุนัขชิสุ โดยคุณจะสนุกกับการหา ข้อมูลมาเขียนและจะได้มีความรู้มากขึ้นใน เรื่องสุนัขชิสุด้วย
 
3.ชื่อบทความ (Entry Title)

วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เกร็ดความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์คืออะไร
คอมพิวเตอร์ คือ อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ (electrinic device) ที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการจัดการกับข้อมูลที่อาจเป็นได้ ทั้งตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ที่ใช้แทนความหมายในสิ่งต่าง ๆ โดยคุณสมบัติที่สำคัญของคอมพิวเตอร์คือการที่สามารถกำหนดชุดคำสั่งล่วงหน้าหรือโปรแกรมได้ (programmable) นั่นคือคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับชุดคำสั่งที่เลือกมาใช้งาน ทำให้สามารถนำคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง เช่น ใช้ในการตรวจคลื่นความถี่ของหัวใจ การฝาก - ถอนเงินในธนาคาร การตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ เป็นต้น ข้อดีของคอมพิวเตอร์ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธภาพ มีความถูกต้อง และมีความรวดเร็ว
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นงานชนิดใดก็ตาม เครื่องคอมพิวเตอร์จะมีวงจรการทำงานพื้นฐาน 4 อย่าง (IPOS cycle) คือ
  1. รับข้อมูล (Input) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการรับข้อมูลจากหน่วยรับข้อมูล (input unit) เช่น คีบอร์ด หรือ เมาส์
  2. ประมวลผล (Processing) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการประมวลผลกับข้อมูล เพื่อแปลงให้อยู่ในรูปอื่นตามที่ต้องการ
  3. แสดงผล (Output) เครื่องคอมพิวเตอร์จะให้ผลลัพธ์จากการประมวลผลออกมายังหน่วยแสดงผลลัพธ์ (output unit) เช่น เครื่องพิมพ์ หรือจอภาพ
  4. เก็บข้อมูล (Storage) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการเก็บผลลัพธ์จากการประมวลผลไว้ในหน่วยเก็บข้อมูล เพื่อให้สามารถนำมาใช้ใหม่ได้ในอนาคต
แสดงขั้นตอนการทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์

  • คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์
    ปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่นิยมนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานต่าง ๆ มากมาย ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะคิดว่าคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่สามารถทำงานได้สารพัด แต่ผู้ที่มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์จะทราบว่า งานที่เหมาะกับการนำคอมพิวเตอร์มาใช้อย่างยิ่งคือการสร้าง สารสนเทศ ซึ่งสารสนเทศเหล่านั้นสามารถนำมาพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์ ส่งผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือจัดเก็บไว้ใช้ในอนาคนก็ได้ เนื่องจากคอมพิวเตอร์จะมีคุณสมบัติต่าง ๆ คือ
    • ความเร็ว (speed) คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนี้สามารถทำงานได้ถึงร้อยล้านคำสั่งในหนึ่งวินาที
    • ความเชื่อถือ (reliable) คอมพิวเตอร์ทุกวันนี้จะทำงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่มีข้อผิดพลาด และไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
    • ความถูกต้องแม่นยำ (accurate) วงจรคอมพิวเตอร์นั้นจะให้ผลของการคำนวณที่ถูกต้องเสมอหากผลของการคำนวณผิดจากที่ควรจะเป็น มักเกิดจากความผิดพลาดของโปรแกรมหรือข้อมูลที่เข้าสู่โปรแกรม
    • เก็บข้อมูลจำนวนมาก ๆ ได้ (store massive amounts of information) ไมโครคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน จะมีที่เก็บข้อมูลสำรองที่มีความสูงมากกว่าหนึ่งพันล้านตัวอักษร และสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่จะสามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าหนึ่งล้าน ๆ ตัวอักษร
    • ย้ายข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกทีหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว (move information) โดยใช้การติดต่อสื่อสารผ่านระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอรซึ่งสามารถส่งพจนานุกรมหนึ่งเล่มในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ไกลคนซีกโลกได้ในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งวินาที ทำให้มีการเรียกเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกันทั่วโลกในปัจจุบันว่า ทางด่วนสารสนเทศ (Information Superhighway)
    ผู้ที่สนใจศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์ จะต้องศึกษาหลักการทำงานพื้นฐานของเครื่องคอมพิวเตอร์และโปรแกรมประยุกต์ต่าง ๆ รวมทั้งจะต้องศึกษาถึงผลกระทบจากคอมพิวเตอร์ต่อสังคมในวันนี้ ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ โดยในแง่บวกนั้นจะมองเห็นได้ง่ายจากสภาพแวดล้อมทั่วไป นั่นคือทำให้สามารถทำงานต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น เริ่มตั้งแต่การจัดเก็บเอกสาร การพิมพ์จดหมาย การจัดทำหนังสือพิมพ์และวารสารต่าง ๆ การฝาก - ถอนเงินในธนาคาร การจ่างเงินซื้อสินค้า ตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์ และในทางการแพทย์อื่น ๆ อีกมากมาย
    ในแง่ลบก็มีไม่น้อย เช่น
    • โรงงานผลิตอุปกรณ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นต้องใช้สารเคมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้เกิดมลพิษต่าง ๆ มากมาย
    • ผู้ใช้อาจมีอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากการทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ เช่น อาจมีการปวดหลังไหล่ที่เกิดจากการนั่งอยู่หน้าเครื่องนาน ๆ หรืออาจเกิดอาการ Carpal Tunnel Syndrome (CTS) ซึ่งเป็นอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากเส้นประสาทบริเวณข้อมูลถูกกดทับเป็นเวลานาน ๆ โดยอาจเกิดจากการใช้คีย์บอร์ดหรือเมาส์ รวมทั้งอาจมีอันตรายจากรังสีออกมาจากจอคอมพิวเตอร์ด้วย
    • ถ้าคอมพิวเตอร์ทำงานผิดพลาดในระบบที่มีความสำคัญมาก ๆ อาจเป็นอันตรายกับชีวิตมนุษย์ได้ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการจราจรทางอากาศ เป็นต้น

  • ประเภทของคอมเครื่องคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ที่ใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน คือ ไมโครคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการใช้งานกันมาก ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน ตลอดจนในสถานศึกษาต่างๆ ไมโครคอมพิวเตอร์เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก แต่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงกว่าเครื่องขนาดใหญ่ในสมัยก่อนเสียอีก อย่างไรก็ดีแม้ว่าไมโครคอมพิวเตอร์จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ทำไม่สามารถทำงานที่ใหญ่ และมีความซับซ้อนได้ เช่น งานของระบบธนาคารหรืออุตสาหกรรมซึ้งมีปริมาณมากและมีความซับซ้อนจะเป็นงานที่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่ทำงานได้ดีกว่าเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์
  • องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 5 ส่วนด้วยกัน คือ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ (Sofeware) บุคลากร (Peopleware) ข้อมูลและสารสนเทศ (Data/Information) และกระบวนการทำงาน (Procedure)
  • วิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์

เกร็ดความรู้เรื่องทั่วไปที่น่าสนใจ

น้ำมันมะกอก แก้นอนกรน


มะกอกจัดเป็นผลไม้ที่มีเม็ดในแข็ง หนึ่งลูกจะมีหนึ่งเมล็ด เป็นพืชที่ทนได้ทุกสภาวะอากาศ ดอกมะกอกจะออกช่อในช่วงปลายฤดูหนาว มีดอกเล็กๆ สีขาว ผลจะโตเต็มที่ประมาณ 7-8 เดือนหลังออกดอก
ลำต้นจะสูงตั้งแต่ 3 เมตร จนถึง 18 เมตร ใบเรียวยาวสีเขียวเข้ม มีหลากหลายพันธุ์

ตัวผลมีรสขมและฝาด เมื่อแก่จัดสีจะเปลี่ยนจากเขียวจนเป็นสีคล้ำจนเกือบดำ มะกอกเป็นผลไม้ที่มีน้ำมันมากที่สุด ในผลมะกอกที่แก่จัด 100 กรัม ให้น้ำมันถึง 20-30 กรัม การสกัดเอาน้ำมันต้องเลือกผลที่แก่จัด จึงจะได้น้ำมันมะกอกที่มีประสิทธิภาพ

น้ำมันมะกอกถึงแม้จะมีแคลอรี่สูง แต่มีข้อดี คือ มีกรดไขมันชนิดที่เป็นประโยชน์กับร่างกายสูง ทำให้ไม่เกิดไขมันสะสมในร่างกาย และน้ำมันมะกอกยังช่วยให้คนที่มีอาการนอนกรนลดเสียงกรนให้เบาลงได้ ด้วยการกินน้ำมันมะกอกสำหรับทำอาหาร ซึ่งควรเลือกแบบ EXTRA VIRGIN OLIVE OIL เพราะ เป็นแบบบริสุทธิ์ มีสีเขียวเข้มใส และนิยมนำมาใช้ในการทำสลัด 

กินสัก 4-5 หยดก่อนนอน ทำอย่างต่อเนื่อง
และทำควบคู่ไปกับวิธีดูแลสุขภาพอื่นๆ ร่วมด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมน้ำหนักให้อยู่
ในระดับมาตรฐาน จะช่วยแก้ปัญหานอนกรน
ให้หมดไปได้

ที่มา : นิตยสารชีวจิต ฉบับ 1 มี.ค. 2552,
ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก - http://http://www.pantown.com/board.php?id=10764&area=4&name=board11&topic=31&action=view
มารู้จักน้ำมันมะกอก (Olive Oil) กันดีกว่า - http://googigg.exteen.com/20080918/olive-oil-2